วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เขียนหนังสือให้สวยและเร็ว

Share -->

เขียนหนังสือให้สวยและเร็ว


  • ผู้เขียนสนใจด้านการเขียนหนังสือมาก สมัยเป็นนักเรียนก็พยายามเลียนแบบคนที่เขียนหนังสือสวยและเร็ว จนมาวันหนึ่ง มีการอบรมด้านการเขียนหนังสือ ซึ่งผู้เขียนก็ได้เข้าร่วมอบรมด้วยและได้ทำการฝึกฝน จนได้ผลดีจึงอยากมาเผยแพร่ตามบทความที่เขียนต่อไปนี้
  • ส่วนตัวผู้เขียนเอง ขณะนี้คิดว่าตัวเองเป็นคนเขียนหนังสือได้เร็วและถ้าจะให้สวยก็ได้ เขียน หนังสือได้เรื่อย ๆ เขียนได้ทั้งซ้ายและขวา แต่ซ้ายฝึกน้อยไปหน่อยก็ไม่คล่อง
  • อย่าหาว่าชมตัวเองเลย ถ้าคิดว่ามันไร้สาระก็ผ่านไปก็แล้วกัน
ลองอ่านบทความข้างล่างดู
ปัญหาเรื่องการเขียนหนังสือเป็นปัญหาไปทั่วโลก ที่อเมริกาโดยเฉพาะคุณหมอทั้งหลายลายมือของท่านแย่จนกระทั่งเภสัชการจ่ายยา ให้คนไข้ผิดพลาดจนมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล  ที่อังกฤษมีการวิจัยออกมาว่าคนที่ลายมือดีเขียนได้เร็ว คน ๆ นั้นจะทำงาน (Perform) ได้ดีขึ้น และเด็กคนนั้นจะเรียนหนังสือได้ดีกว่าคนที่ลายมือไม่ดี (ข้อความจาก Internet) แต่ก็ไม่ยักกะบอกว่าทำอย่างไรจึงจะมีลายมือที่เป็นระเบียบและสวยขึ้น แต่ที่อเมริกาได้มีคนหัวไสได้ตั้งโรงเรียนสอนเขียนหนังสือให้เป็นระเบียบและ สวยงามขึ้นแล้ว จริง ๆ แล้วการที่จะมีลายมือที่ดีขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยไม่จำเป็นต้องเข้า โรงเรียนที่ไหน ถ้าท่านปฏิบัติตามที่ข้าพเจ้าแนะนำท่านจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตามมันก็ขี้นอยู่กับตัวท่านเองนั่นแหละว่าต้องการทำให้ลายมือดี ขึ้นหรือเปล่าเท่านั้นเอง
                ในฐานะอาจารย์เรื่องที่น่ารำคาญใจเป็นที่สุดเมื่อเห็นลายมือนักศึกษาที่ เขียนข้อสอบมาให้ตรวจ บางคนแทบอ่านไม่ออกเลย  เคยเจอนักศึกษาปริญญาเอกได้บ่นกับข้าพเจ้าว่าเขาเขียนหนังสือไม่ค่อยเป็น ระเบียบสวยงามและไม่เร็วเลย ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่าสมองของเขาคิดได้เร็วมาก ถ้าไม่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงานจะทำงานได้น้อยมาก หรือไม่อย่างงั้นก็ต้องบอกคนอื่นให้ช่วยเขียนให้ แต่ถ้าคนอื่นก็เขียนแย่เหมือนท่านล่ะ ท่านจะทำอย่างไร  วิธีการแก้ปัญหาก็คือการให้คอมพิวเตอร์ แต่อย่าลือว่า ท่านไม่สามารถนำคอมพิวเตอร์ติดตัวของท่านตลอดเวลาบางครั้งก็ไม่สดวก  ข้าพเจ้าเคยเจอลายมือ  Professor  บางท่านค่อนข้างจะแย่เอามาก ๆ ซึ่งก็ทำให้ได้คิดว่าการทำงานได้ดีนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีลายมือดี เสมอไป จากการสังเกตุของข้าพเจ้าข้าพเจ้ารู้สึกว่าวิธีการเขียนของท่านไม่ค่อยถูก (เป็นความเห็นของข้าพเจ้าเอง) ข้าพเจ้าเป็นคนค่อนข้างจะเป็นคนที่ช่างสังเกตุสักหน่อย แล้วข้าพเจ้าจะอธิบายวิธีที่ถูกต้องทีหลัง
                โดยพื้นฐานแล้วข้าพเจ้าเป็นคนเขียนหนังสือไม่ดีและมีปัญหาเหมือนบุคคลอื่น ที่ยังมีปัญหาอยู่เช่นกัน เมื่อสมัยข้าพเจ้าเป็นนักเรียนเห็นเพื่อนเขียนสวย ๆ ก็พยายามลอกเลียนแบบแต่ก็ทำได้ไม่ค่อยดี ด้านการเรียนที่เป็นวิชาคำนวณ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ข้าพเจ้าค่อนข้างจะทำได้ดี แต่วิชาที่ต้องเขียนและอธิบายแล้ว เข่น ภาษาไทย สังคมศึกษา และอื่น ๆ ข้าพเจ้าทำได้ค่อนข้างแย่เอามาก ๆ ข้าพเจ้าเคยพ้อมาเสมอว่าสมัยเด็ก ๆ คุณครูน่าจะสอนวิธีการเขียนหนังสือให้สวยบ้าง แต่พอดูคุณครูแล้วท่านก็เขียนไม่สวยเช่นกันแล้วจะให้ท่านสอนได้อย่างไร
                หลังจากจบแล้วเข้าทำงานทั้งเอกชนและรับราชการเป็นอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคซึ่ง งานหลักมีความจำเป็นต้องเขียนกระดานทำให้เขียนไม่ดีระเกะระกะไม่เป็นเส้นตรง แต่เมื่อข้าพเจ้าได้เห็น ผ.อ วิทยาลัยเทคนิคท่านหนึ่งขออนุญาตเอ่ยนามของท่านคืออาจารย์บุญชู มูลพินิจ ข้าพเจ้าถือว่าท่านเป็นครูคนแรกคนแรกของข้าพเจ้าในเรื่องการเขียนหนังสือ ท่านเขียนหนังสือเร็วเป็นระเบียบและสามารถเขียนได้หลายรูปแบบ ทำให้ข้าพเจ้าประทับใจในการเขียนของท่านมาก จริง ๆ แล้วท่านไม่ได้สอนข้าพเจ้าโดยตรงแต่จากการสังเกตข้าพเจ้าก็เลียนแบบตามทำให้ เขียนหนังสือดีขึ้นแต่อย่างไร ก็ตามนั่นไม่ใช่ตัวของข้าพเจ้าจริง ๆ เพราะรู้สึกขัด ๆ อย่างไรชอบกล แต่อย่างไรก็ตามผลจากการลอกเลียนแบบท่านทำให้ข้าพเจ้าเขียนกระดานได้เร็วและ เป็นเส้นตรงแม้ว่าจะเขียนกระดานถึง 2 แผ่นต่อกัน
                ในสมัยอาจารย์ สมเกียติ พึ่งอาตม์ เป็นผ.อ วิทยาลัยเทคนิคอุบล ฯ ได้มีแนวคิดการนำเสนอการเขียนหนังสือที่ถูกต้องให้แก่นักศึกษาวิทยาลัย เทคนิคเพราะเห็นปัญหาเช่นเดียวข้าพเจ้าเคยประสบ จึงได้เชิญวิทยากร*ซึ่งเป็นผู้เชียวชาญในการเขียนหนังสือสวยและเป็นครูทีสอน เด็กให้เขียนหนังสือสวย ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอิจฉาเด็กพวกที่ได้รับการสอนจากอาจารย์เหล่านี้เหลือ เกิน ถ้าข้าพเจ้าได้มีโอกาสเรียนมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนชั้นประถมลายมือ ข้าพเจ้าคงดีมาตั้งแต่เล็ก
                ครั้งแรกที่ท่านสอนข้าพเจ้าตื่นเต้นมากและร้องอ้อ….เลยว่านี่น่าจะเป็นวิธี การที่ถูกต้อง ข้าพเจ้าได้นำวิธีการนี้มาฝึกหัดทันที ข้าพเจ้าใช้เวลาในการปรับตัวเองเล็กน้อยเพื่อให้เป็นตัวของตัวเอง ไม่นานนักข้าพเจ้าเขียนหนังสือได้เร็วเท่ากับความคิด เขียนได้ไม่เมื่อย เขียนไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีอะไรมากดดันเป็นธรรมชาติ อยากเขียนให้สวยก็ได้ อยากเขียนให้หวัดก็ได้ ตามต้องการ แต่ข้าพเจ้าเลือกให้หวัดนิด ๆ แต่เป็นระเบียบและไม่ชอบการเขียนกระดาษที่มีเส้นเพราะข้าพเจ้าเขียนได้ตรง โดยไม่มีเส้นก็ได้  จากอานิสงค์ของข้าพเจ้าที่ได้รับจากการฝึกหัดนั้น ข้าพเจ้ามีศรัทธาอันแรงกล้าที่จะเผยแพร่กรรมวิธีนี้ให้คนอื่นได้รู้บ้าง เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนที่มีปัญหาในการเขียนหนังสือ ข้าพเจ้าพยายามทำมาแล้วกับหลาย ๆ คน บางคนก็เชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ นั่นเป็นนานาจิตตัง ในส่วนตัวของข้าพเจ้าแล้วไม่มีปัญหา
                เอาละอารามภบทมาก็เยอะ ท่านอาจจะถามว่าเมื่อไหร่จะบอกสักที ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อที่กระตุ้น (Inspiration) ความรู้สึกของท่านให้เกิดความอยากที่จะพัฒนาตัวเอง อย่างไรก็ตามก่อนอื่นท่านต้องเปลี่ยนทัศนคติของตัวท่านเองเสียก่อนว่าไม่มี อะไรจะสายเกินก่วาการแก้ไข ข้าพเจ้าเรียนรู้วิธีการนี้เมื่อข้าพเจ้าอายุในขณะนั้นคือ 37 ปี และข้าพเจ้ายังมีคิดว่าถ้ามีอะไรทิ่วิเศษวิโสกว่านี้ข้าพเจ้าก็จะเปลี่ยน แปลงตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
 ถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าจะบอกเคล็ดไม่ลับสักที ง่าย ๆ มีเบื้องต้นอยู่ 3 ข้อเท่านั้นเอง คือ
  1. การนั่ง
  2. การวางสมุด หรือ หนังสือ
  3. การจับปากกา
  4. การนั่งให้นั่งตัวตรงสบาย ๆ หันหน้าเข้าหาโต๊ะ เก้าอี้ก็ควรให้สูงพอเหมาะ ถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นเก้าอี้ที่ปรับได้
  5. การวางสมุดให้ว่างเอียงประมาณ 30 องศากับโต๊ะ
การวางแขนให้วางตามแนวสมุด
  1. การจับปากกาซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดหลักการก็คือจะทำ อย่างไรให้มีคมความยึดหยุ่นสูงได้ เท่าที่ข้าพเจ้าสังเกตุร้อยทั้งร้อยถ้าใครที่จับปากกาที่ถูกต้องจะเขียน หนังสือได้ดีทั้งนั้นดูรูปหน้าต่อไปซึ่งเป็นการจับปากกาที่ถูกต้อง จะเห็นว่านิ้วแต่ละนิ้วเหลื่อมกันโดยเฉพาะนิ้วโป้งจะต้องอยู่ต่ำกว่านิ้วชี้ จริง ๆ แล้วข้าพเจ้าทฤษฎีนี้ไม่ใช่ข้าพเจ้ามั่วเองแต่เกิดจากการศึกษารูปแบบการจับ ปากกาในหนังสือที่เขียนมีหลากหลายในท้องตลาด จากการสังเกตุและการปฏิบัติของตัวเอง ท่านลองจับดูแล ก็ปรับให้เหมาะสมของแต่ละท่าน ส่วนท่านได คิดว่าท่านไม่ได้จับแบบนี้ท่านก็เขียนสวยอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับท่านเอง ข้าพเจ้าขอให้ข้อคิดนิดหนึ่งว่า ถ้าเราต้องการเล่นกิฬา ไม่ว่าจะเป็นชนิดไดก็ตาม จะให้ดีแล้ว Basic ท่านต้องแน่นเสียก่อนหลังจากนั้นท่านอยากจะพลิกแพลงอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน หรือแม้แต่การพิมพ์ก็เช่นเดียวกัน บางท่านอาจจะบอกว่าพิมพ์โดยใช้ 2 นิ้วของท่านเร็วอยู่แล้วแต่ความเชื่อของข้าพเจ้ากลับเชื่อว่าพิมพ์สัมผัส (ใช้ 10 นิ้ว) ท่านจะพิมพ์เร็วกว่าในขั้นสูงสุด ผู้เขียนพิมพ์สัมผัสได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษเพราะข้าพเจ้าเห็นว่าหลักการที่ถูกต้องเราควรทำ อย่างไรก็ตามในตอนเริ่มต้นใหม่ ๆ อาจจะต้องใช้ความพยายามบ้าง แต่ต่อไปท่านจะสบายเอง
ถ้าข้อเขียนนี้จะมีความดีอยู่บ้างข้าพเจ้าของยกประโยชน์ให้เป็นของ อาจารย์อรทัย ชมาฤกษ์ และอาจารย์ อรุณ สมชัย แห่ง ส.ป.จ. จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มรื่องนี้ขึ้นมาเป็นกลุ่มแรก

ขอบคุณ

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ได้จริงหรอค่ะ