วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความแตกต่างของวิศวะคอมกับสาขาอื่นๆ

Share -->

ความแตกต่างของวิศวะคอมกับสาขาอื่นๆ

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ >>> รู้รอบ 
วิศวะ คอมนั้นจะศึกษาเกี่ยวกับทั้งด้าน Hardware และSoftware เพราะฉะนั้นก็จะได้ศึกษาเกี่ยวกับภาษาระดับล่างซึ่งเป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์ เข้าใจอย่างเช่นภาษา Assembly เรื่อยมาจนถึงภาษาขั้นสูงซึ่งนักพัฒนาส่วนใหญ่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Java,C++,C# นอกจากนี้เนื่องจากที่ต้องศึกษาด้าน Hardware ก็จะทำให้รู้โครงสร้างต่างๆของคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network)
 รวม ถึงวิธีการที่ซอฟต์แวร์ติดต่อกับฮาร์ดแวร์ (Operating System) เนื่องจากมีการเรียนที่เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ก็จะมีแล็บของฮาร์ดแวร์ซึ่งจะได้ เรียนรู้การสร้างฮาร์ดแวร์ต่างๆจริงๆ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเรียนเกี่ยวกับทฤษฎีทางคณิตศาสตร์และอัลกอริทึ่มในการเขียนโปรแกรมต่างๆ ซึ่งก็จะต้องเรียนอย่างลึกซึ้งพอสมควร และยังต้องเรียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ระบบต่างๆขององค์กร
เรียกได้ว่าเรียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้
เป็น ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ สร้างเครื่องหรือระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องใช้ความรู้ทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ การสื่อสาร ควบคู่กับความรู้ทางด้านวิศวกรรม โดยมีรากฐานจาก Computer Science เป็นสาขาที่แตกตัวมาจากวิศวกรรมไฟฟ้า หรืออธิบายให้เห็นภาพก็คือ เหล่าเทคโนโลยี เริ่มมาจากการประยุกต์ความรู้ทางฟิสิกส์ จนมาเป็นไฟฟ้า แล้วก็เรื่อยมาจนเป็นอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นก็นำความรู้ทางฟิสิกส์ ไฟฟ้า คณิตศาสตร์ เป็นพื้นฐานในสร้าง Hardware และอุปกรณ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ นั้นก็คือ วิศวกรคอมพิวเตอร์เน้นทางด้านฮาร์ดแวร์มากกว่าซอฟต์แวร์ และมีโดดเด่นทางด้านวิศวกรรม ซึ่ง ผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชานี้สามารถทำงานเป็นนักออกแบบคอมพิวเตอร์ เป็นวิศวกรชุดคำสั่ง ที่สามารถพัฒนาชุดคำสั่งระบบ และชุดคำสั่งประยุกต์ ร่วมถึงฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิคแก่องค์กรที่นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการปฏิบัติ งาน
ตัวอย่างวิชาที่เรียน
  • กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาศึกษาทั่วไป เช่น แคลคูลัส, เคมีทั่วไป, ปฏิบัติการเคมีทั่วไป, ฟิสิกส์ทั่วไป, ปฏิบัติการฟิสิกส์ทั่วไป และคณิตศาสตร์สำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
  • กลุ่มวิชาเฉพาะทาง เช่น การเขียนแบบวิศวกรรม, คอมพิวเตอร์สำหรับวิศวกร, การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, ทฤษฎีวงจรไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, ความน่าจะเป็นและสถิติวิศวกรรม, สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์, โครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม, การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์, ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์, การออกแบบวงจร VLSI, ระบบไมโครโปรเซสเซอร์, ระบบดิจิตอล, โครงงานวิศวกรรมคอมพิวเตอร์, อาชญากรรมและการป้องกันทางคอมพิวเตอร์ และการออกแบบคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
  • กลุ่มวิชาทางด้านซอฟต์แวร์ เช่น การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, โครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม, การออกแบบวงจร VLSI   เป็นต้น
แนวทางประกอบอาชีพ
วิศวกร คอมพิวเตอร์, วิศวกรควบคุมดูแลระบบคอมพิวเตอร์, นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, ผู้ผลิตงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกและมัลติมีเดีย, นักพัฒนาอุปกรณ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, นักบริหารเครือข่ายคอมพิวเตอร์, นักบริหารและจัดการฐานข้อมูล, นักออกแบบวงจร เช่น วงจรการขึ้นลงของลิฟท์ การออกแบบไมโครคอมพิวเตอร์ในรถยนต์
จบแล้วได้วุฒิ     วศ.บ.
วิทยาการคอมพิวเตอร์ >>> เขียน และใช้ให้เป็น
เป็น ภาควิชาที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ การนำซอฟต์แวร์ไปใช้ประโยชน์ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่เป็นส่วนติดต่อกับผู้ใช้ด้วย จะเห็นได้ว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นจะเน้นด้านการเรียนเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ เป็นหลัก ไม่ได้ลงลึกไปถึงตัวฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์มากนักเพราะเน้นที่จะสร้าง ซอฟต์แวร์ที่จะนำไปใช้ได้จริงๆมากกว่า
วิชาที่เรียนก็จะมีวิชาที่เกี่ยวกับทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ และ การเขียนโปรแกรมต่างๆ เป็นหลัก ดังตารางต่อไปนี้
ENGINEER SCIENCE
PROGRAMMING METHOLOGY PROGRAMMING TECHNIQUES
DISCRETE STRUCTURE DATA STRUCTURES
PROGRAMMING LANGUAGE PRIN. PROGRAMMING LANGUAGE PRIN.
ALGORITHM DESIGN ALGORITHM DESIGN
NUMERICAL ANALYSIS NUMERICAL ANALYSIS
DATABASE SYSTEM
DATABASE SYSTEM
OPERATING SYSTEMS OPERATING SYSTEMS
DIGITAL COMP. LOGIC & LAB
THEORY OF COMPUTATION
COMPUTER ORGANIZATION CALCULUS III
INFO. SYS. ORG.
MATH. MODELS AND REASONING
DIGITAL DES. VERILOG & LAB LINEAR ALGEBRA I
COMPUTER SYSTEM ARCHITECTURE COMPUTER SYSTEMS
HARDWARE SYNTHESIS LAB
FUND. OF DISTRIBUTE SYS.
COMPUTER NETWORK
SOFTWARE ENGINEERING
FORMAL LANGUAGE & AUTOMATA
COMP ENG PRE-PROJ
COMP ENG PROJECT
ENGINEERING PRACTICE
APPROVE  ELECTIVE 12  CREDITS APPROVE ELECTIVE 30 CREDITS
ตัวอย่างวิชาที่เรียน
  • กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาศึกษาทั่วไป เช่น ชีววิทยา, เคมีทั่วไป, เรขาคณิตวิเคราะห์และแคลคูลัส, หลักสถิติ, ปฏิบัติการฟิสิกส์, ฟิสิกส์พื้นฐานขั้นมหาวิทยาลัย, พีชคณิตเชิงเส้น และเทคโนโลยีสารสนเทศ 
  • วิชาเฉพาะทาง เช่น การวิเคราะห์และการออกแบบระบบงาน, การสื่อสารข้อมูลและข่ายงาน, ระบบฐานข้อมูล, โครงสร้างโปรแกรม, โครงสร้างข้อมูลอัลกอริทึม, สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์, ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์, การออกแบบดิจิตอลทฤษฎี, การคำนวณชั้นสูง, หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, โครงสร้างคอมพิวเตอร์เบื้องต้น, ระบบคอมพิวเตอร์เบื้องต้นและภาษาแอสแซมบลี, โครงสร้างข้อมูลและหลักพื้นฐานของอัลกอริทึม, ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์, การออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ และเครือข่ายสื่อสารคอมพิวเตอร์
แนวทางประกอบอาชีพ 
เช่น นักเขียนโปรแกรม, นักวิเคราะห์ระบบ, นักวิศวกรระบบ, นักบริหารระบบปฏิบัติการ, นักพัฒนาระบบ, นักบริหารเครือข่าย, ที่ปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์, ผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์, ผู้ช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการและเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์, นักออกแบบระบบ และนักวิจัยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
จบแล้วได้วุฒิ     วท.บ.
สรุปความแตกต่าง
เห็น ได้ชัดเจนว่าวิศวคอมจะเน้นเรียนทุกอย่างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในขณะที่วิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นจะเน้นเรียนเกี่ยวกับด้านซอฟต์แวร์เพียง อย่างเดียว
วิศวกรรมซอฟต์แวร์ >>> สู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์
คณะนี้จะเน้นเกี่ยวกับโปรแกรมอย่างเดียวเลย โดยจะเป็นการเรียนที่เน้นให้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบและมีหลักการ
จะ ต้องเรียนรู้การพัฒนาซอฟต์แวร์ตั้งแต่ก่อนที่จะเขียน คือ การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ การเริ่มเขียนโปรแกรม ตรวจว่าโปรแกรมนั้นมีคุณภาพแค่ไหน  ตลอดจนวิเคราะห์ว่าโปรแกรมของเรานั้นควรขายที่ราคาเท่าไหร่
เน้น การศึกษาให้มีความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ได้ตามมาตรฐานสากล มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบระบบ โดยกำหนดฐานข้อมูลและเขียนโปรแกรม และสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ตามข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานสากลซึ่งเป็นที่ยอมรับ ทั้งในและนานาประเทศ
วิทยา ศาสตร์คอมพิวเตอร์ตามทฤษฎีจะเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาศาสตร์ทางด้าน คอมพิวเตอร์ IT ถือว่าเป็นเหมือนนักบริหารของทางด้านคอมพิวเตอร์ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกถึง ระดับทฤษฎีและการทำงานอย่างละเอียดแต่ต้องเป็นผู้ที่สามารถเลือกใช้ทรัพยากร ได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาที่ได้รับมอบหมาย 
วิทยา ศาสตร์คอมพิวเตอร์จะเน้นที่กระบวนการวิศวกรรมสำหรับระบบซอฟต์แวร์ขนาด ใหญ่ เป็นศาสตร์เกี่ยวกับการประยุกต์ความรู้และเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารจัดการโครงการ และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน โดยเริ่มด้วยการวิเคราะห์ความต้องการ, การกำหนดเป้าหมายของระบบ, การออกแบบ, การพัฒนา, การทดสอบ, การประเมินผล, การติดตามโครงการ, การประเมินต้นทุน, การรักษาความปลอดภัย, การบำรุงรักษาระบบซอฟต์แวร์ ตลอดจนถึงถึงการคิดราคาซอฟต์แวร์
ตัวอย่างวิชาที่เรียน
  • กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาศึกษาทั่วไป เช่น แคลคูลัส, พีชคณิตเชิงเส้น, เคมีทั่วไป, ปฏิบัติการเคมีทั่วไป, ฟิสิกส์ทั่วไป และปฏิบัติการฟิสิกส์ทั่วไป 
  • วิชาเฉพาะทาง เช่น วิศวกรรมซอฟต์แวร์, การกำหนดและการจัดการความต้องการทางซอฟต์แวร์, การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมเชิงวัตถุ, สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์, กระบวนการซอฟต์แวร์และการประกันคุณภาพ, การจัดการโครงงานซอฟต์แวร์, การทวนสอบและทดสอบซอฟต์แวร์, กลยุทธ์และสถาปัตยกรรมการทำธุรกิจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรมเทคโนโลยีมัลติมีเดีย, การพัฒนาระบบประยุกต์ไร้สาย และการออกแบบและการพัฒนาระบบเครือข่ายในองค์กร
แนวทางประกอบอาชีพ 
เช่น นักเขียนโปรแกรม, นักพัฒนาระบบ, นักวิเคราะห์ระบบ, นักออกแบบระบบ, วิศวกรระบบ, นักบริหารระบบปฏิบัติการ, นักบริหารเครือข่าย, ที่ปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์, นักวิจัยคอมพิวเตอร์, ผู้ช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้า, ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับวิทยาการและเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ และผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
พูดง่ายๆว่าคณะนี้เรียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์
จบแล้วได้วุฒิ     วท.บ.
ICT >>> ประยุกต์ไปใช้
คณะ นี้จะเน้นที่การเรียนในระดับบนของคอมพิวเตอร์ เรียนเพื่อที่จะนำสิ่งต่างๆไปประยุกต์ใช้เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าคณะนี้นั้น ได้แบ่งย่อยๆออกเป็นอีกหลายสาขา การเขียนโปรแกรมนั้นก็พอจะเขียนได้บ้างแต่ไม่ได้ลงลึกเท่ากับคณะอื่นๆเพราะ ว่าเน้นไปที่การนำโปรแกรมที่คนอื่นได้พัฒนาแล้วไปใช้อย่างถูกต้องและได้ ประโยชน์อย่างสูงสุด 
สาขา นี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียน มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เน้นเทคโนโลยีเครือข่าย เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ และการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึง การรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี เพื่อนำข้อมูลนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำ Simulation หรือ โปรแกรมการจำลองการทำงานต่าง ๆ อย่างการจำลองการทำงานของตลาดหุ้น, การจำลองการทำงานของเครื่องบิน
หรืออธิบายสั้นๆ ได้ว่า เป็นการจัดการข้อมูล โดยศึกษาโปรแกรมต่างๆ เพื่อใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาจัดระบบ
ตัวอย่างวิชาที่เรียน
  • กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาศึกษาทั่วไป เช่น  ความน่าจะเป็นและสถิติ, แคลคูลัส, คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ, มนุษย์และสิ่งแวดล้อม, ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายธุรกิจ, สถิติธุรกิจ, หลักการบัญชี, เคมีทั่วไป และคณิตศาสตร์ไม่ต่อเนื่อง
  • วิชาเฉพาะทาง เช่น หลักการสืบค้นสารสนเทศ, เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์, โครงสร้างข้อมูลและหลักพื้นฐานของอัลกอริทึม, การวิเคราะห์และออกแบบระบบ, หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ, เครือข่ายคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม, ระบบการจัดการฐานข้อมูล, ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์, การสื่อสารข้อมูล และ การสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย เทคโนโลยีเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต, การออกแบบส่วนต่อประสานกับมนุษย์, ความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ, เทคโนโลยีมัลติมีเดีย, การออกแบบปฏิสัมพันธ์บนอุปกรณ์ไร้สาย, การออกแบบและสร้างเว็บ
แนวทางประกอบอาชีพ 
เช่น ผู้บริหารระบบคอมพิวเตอร์, นักวิเคราะห์ระบบ, ผู้พัฒนาระบบสื่อ, นักเขียนโปรแกรม, นักพัฒนาระบบ, นักออกแบบระบบ, นักบริหารเครือข่าย, นักวิจัยคอมพิวเตอร์, ผู้ช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้า ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการและเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ ผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
จบแล้วได้วุฒิ     วท.บ. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
วิศวกรรมมัลติมีเดียและระบบอินเทอร์เน็ต (Multimedia and Internet System Engineering)
เป็น ศาสตร์ที่นำเอาองค์ความรู้ของการผลิตสื่อมัลติมีเดีย รวมทั้งบริการผ่านเทคโนโลยีสื่อสารและคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ใช้ทักษะการออกแบบสื่อตามจุดมุ่งหมายมีความเชี่ยวชาญทางการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์เพื่อรวมสื่อการพัฒนาเนื้อหา และบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีรับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสื่อนั้น เช่น การบันทึกสื่อ การลดขนาดสื่อมัลติมีเดีย เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หลักการและการทำงานของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และโครงข่ายสื่อสารความ เร็วสูง การผลิตและทดสอบเกมคอมพิวเตอร์ และการประยุกต์อุปกรณ์สมัยใหม่ร่วมกับสื่อมัลติมีเดีย
ตัวอย่างวิชาที่เรียน
  • กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาศึกษาทั่วไป เช่น แคลคูลัส, เคมีทั่วไป, ปฏิบัติการเคมีทั่วไป, ฟิสิกส์สมัยใหม่, ปฏิบัติการฟิสิกส์สมัยใหม่, คณิตศาสตร์สำหรับวิศวกรรมระบบและมัลติมีเดียและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  • วิชาเฉพาะทาง เช่น การเขียนแบบวิศวกรรม, ทักษะการสร้างสรรค์สื่อมัลติมีเดีย, พื้นฐานระบบคอมพิวเตอร์, ทฤษฎีสัญญาณและเสียง, การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, การเขียนโปรแกรมสำหรับวิศวกรรมเครือข่าย, เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตการผลิตสื่อมัลติมีเดีย, วงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์,เครือข่ายไร้สายและเคลื่อนที่, ระบบดิจิตอล, ความน่าจะเป็นและสถิติวิศวกรรม, การจัดการสารสนเทศและบริการ, ระบบสื่อสารด้วยมัลติมีเดีย, การเขียนโปรแกรมระบบมัลติมีเดีย, เทคโนโลยีเครื่องบริการเว็บ, คอมพิวเตอร์กราฟิกและอนิเมชัน, เทคนิคพิเศษสำหรับมัลติมีเดีย, วิศวกรรมระบบเสียงและภาพ, ความปลอดภัยในระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย,โครงงานวิศวกรรมมัลติมีเดียและ ระบบอินเทอร์เน็ต, ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และหลักการสื่อสาร
แนวทางประกอบอาชีพ 
เช่น วิศวกรดูแลและพัฒนาระบบมัลติมีเดีย, วิศวกรระบบภาพและเสียง, ผู้ผลิตเกมคอมพิวเตอร์, วิศวกรระบบเครือข่าย, ผู้ผลิตงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกและมัลติมีเดีย, วิศวกรเครือข่ายสื่อสารความเร็วสูง, ผู้ผลิตสื่อดิจิตอล, ผู้พัฒนาระบบแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที, นักเขียนโปรแกรมด้านมัลติมีเดีย และผู้จัดการระบบสารสนเทศ 
จบแล้วได้วุฒิ     วศ.บ.
source:
http://www.tai-parinya.com/node/194  
http://www.cp.eng.chula.ac.th
http://diamond.math.sc.chula.ac.th/BSc.Comp.pdf
http://www.vcharkarn.com
http://eng.bu.ac.th/multi/multi2.html
โดยสรุปแล้ว
  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ศึกษา โครงสร้างทุกส่วนของคอมพิวเตอร์ทั้ง Hardware และ Software โดยจะเน้นไปในส่วนของกระบวนการทำงาน และการออกแบบเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
  • วิทยาการคอมพิวเตอร์ จะเน้นที่ Software และการนำไปประยุกต์ใช้มากกว่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จะไม่เน้นถึงตัวทฤษฎีหรือหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์เท่าวิศวกรรม คอมพิวเตอร์
  • วิศวกรรม Software ยังคงศึกษาเชิงลึกเช่นเดียวกับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นเฉพาะส่วนของ Software เป็นหลักสาขานี้เน้นเรื่องหลักการพื้นฐานของ Software
  • ICT เน้นการเอาคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ในเรื่องของเครือข่ายสารสนเทศ ระบบฐานข้อมูล เนื้อหาที่ศึกษาจะศึกษาในระดับกว้างไม่ลงลึกเท่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์

ไม่มีความคิดเห็น: